Strong-B ที่ B เกิน 161.8% แต่คลื่น C ยังมี New-Low

ในบทความนี้เราจะมาพูดคุยกันเรื่องคลื่น B ของรูปแบบ Flat Correction กัน..

โดยรูปแบบ Flat จะแบ่งหมวดโครงสร้างไว้ 3 ประเภท คือ Strong-B, Normal-B, Weak-B..

ซึ่งในวันนี้เราจะมาพูดคุยกันในหมวดของ Strong-B กัน...

ใน Strong-B จะมีรูปแบบภายในอยู่สามรูปแบบ คือ

Irregular
Irregular Failure
Running

ซึ่งเราจะมาพูดคุยกันในบทความนี้ครับ, และเหตุผลที่จั่วหัวบทความไว้ว่า 'Strong-B ที่ B เกิน 161.8% แต่คลื่น C ยังมี New-Low'..

ต้องมาดูเรื่องสัดส่วนกันก่อนว่า เจ้ารูปแบบเหล่านี้ มีสัดส่วนอย่างไร โดยผมจะแบ่งเป็น 3 ประเภทหลักๆ คือ..

1. สัดส่วนตามคลิปยูทูปสอนฟรี
เราอาจพบเห็นได้ในยูทูป โดยมีการอ้างถึงตำราหลัก แต่ไม่ได้เขียนข้อยกเว้นไว้ชัดเจน ทำให้ผู้ใช้งานทฤษฎีสับสน..

2. สัดส่วนตามหนังสือตำราหลัก
เราจะพบได้ในหนังสือตำราหลัก ซึ่งจะมีความละเอียดมากกว่า เพราะมีความชัดเจน รวมทั้งมีการเขียนข้อยกเว้นไว้อย่างชัดเจน..

และสุดท้าย คือ ฉบับของพวกเราเอง ซึ่งเดี๋ยวจะอธิบายหลังจากอธิบายทั้งสองประเภทเรียบร้อยแล้ว ว่าทำไมถึงมีการประยุกต์ของพวกเราเพิ่มเติมออกมา..

เรามาเริ่มกันที่สัดส่วนที่อาจพบเห็นได้ทั่วไปในยูทูปสอนฟรีได้เลย คือ

1️⃣ Irregular
คลื่น B อยู่ระหว่าง 101-123.6%
คลื่น C ยาวกว่า B

2️⃣ Irregular Failure
คลื่น B อยู่ระหว่าง 123.6-138.2%
คลื่น C ต้องสั้นกว่า B

3️⃣ Running
คลื่น B อยู่ระหว่าง 138.2-161.8%
คลื่น C ต้องสั้นกว่า B

นี่คือสัดส่วนที่เราอาจพบเจอได้ในคลิปสอนฟรีในยูทูปทั่วๆ ไป, แต่พอเรานำไปนับคลื่นแล้ว บางทีเราเจอคลื่น B ขึ้นไปเกิน 123.6% แต่คลื่น C ยังลงมามี New-low ได้ นั่นคือเหตุผลที่โยงไปยังประเภทการอธิบายที่สองครับ..

ซึ่งในการอธิบายตามตำราแล้ว สัดส่วนจะเหมือนกับทื่เราอาจพบเจอได้ในยูทูปสอนฟรีเลย แต่จะมีข้อยกเว้นเพิ่มเติม ก็คือ

- สำหรับ Irregular
หากขา C ไม่เกิน 161.8% ของคลื่น A เรายังสามารถนับให้เป็น Irregular Flatได้
แต่ถ้าเกิน ทฤษฎีจะบอกให้เปลี่ยนไปใช้ชื่อและนัยของ Elongated Flat แทน

- สำหรับ Irregular Failure
อย่างที่หลายคนอาจพบเจอว่าบางทีคลื่น B ขึ้นมาเข้าเงื่อนไขของ Irregular Failure, แต่ คลื่น C ดันมี New-Low
มันไม่ได้ผิดกฎแต่อย่างใด แต่มันคือ ข้อยกเว้นที่หนังสือเขียนไว้แล้วครับ เพียงแต่เราไม่ได้เรียนรู้เท่านั้นเอง

หนังสือเขียนไว้ชัดเจนเลยว่า แม้คลื่น B จะขึ้นมาถึงช่วงระหว่าง 123.6-138.2% ก็ยังมีโอกาสดีที่ราคาจะลงไปทำ New-low (หรือคลื่น C ยาวกว่า B นั่นเอง)
ดังนั้น เราเคลียร์ได้เรื่องนึงแล้วเนอะครับ คือเรื่องนี้

- สำหรับ Running
ในส่วนของตัวสุดท้ายนี้ ทั้งหนังสือตำราหลัก และ สัดส่วนตามยูทูปสอนฟรี เหมือนกันเลยครับ คือ

คลื่น B อยู่ระหว่าง 138.2-161.8%
คลื่น C ต้องสั้นกว่า B (เพิ่มเติมคือ คลื่น C จะต้องไม่ไปอยู่ในช่วงราคาคลื่น A)

แต่ทั้งหมดนี้ ไปขัดแย้งกับ ประเภทที่สามที่เราเกริ่นไว้ก่อนหน้านี้ครับ นั่นคือ การประยุกต์ของพวกผมเอง

🎗️ สำหรับในมุมมองของ EWR แล้ว เรามองลักษณะกราฟทุกอย่างมาจากความน่าจะเป็นและสถิติครับ, เราพบว่าบางสัดส่วนที่ทฤษฎีกำหนดมานั้น ตลาดไม่ได้ปฏิบัติตามกฎนั้นเสมอไปครับ...

โดยสัดส่วนทั้งหมด อธิบายง่ายๆ เลย คือ ถ้าคลื่น B เกิน 100% ของ A ขึ้นไป (เข้าเงื่อนไขขั้นต่ำ Strong-B) และหากคลื่น C ลงมามี New-Low รูปแบบนั้นก็เป็น Irregular, แต่หาก C ไม่หลุด Low ก็เป็น Irregular Failure, แต่หาก C ไม่หลุดโลว์ และไม่อยู่ช่วงราคาคลื่น A ก็จะเป็น Running...

โดยที่ สัดส่วนคลื่น B เราไม่ได้ Fix ไว้มากมายเลยครับ, เช่น คลื่น B เกินไปยัน 161.8% แล้วมี New-low อันนี้เราก็ให้เป็น Irregular Flat ได้ โดยพวกเราใช้มาตลอด ไม่มีปัญหาในการนับคลื่นและ Forecast ได้ เทรดได้ปกติครับ..

(สำหรับคนที่คับข้องใจว่าพวกเราอาจจะมั่วหรือเปล่า ลองย้อนกลับไปดูผลงาน Forecast ของพวกเราได้เลยครับ)..

สรุปคือ ต่อให้ B สูงแค่ไหน พวกเราไม่ได้สนใจตรงนั้น, เราสนใจที่คลื่น C ว่าเป็นอย่างไร จบตรงไหน จบแบบมี new-low หรือไม่มี new-low เสร็จแล้วค่อยสรุปโครงสร้างอีกทีครับ..

ตลาดนั้น ไม่ได้ปฏิบัติตามกฎของตำราเสมอไป ผู้เขียนทฤษฎีไม่ใช่พระเจ้า เป็นเพียงการหาบางสิ่้งมารองรับสิ่งต่างๆ เพื่อให้มีเหตุผลมากยิ่งขึ้น และสบายใจมากขึ้น แต่หากเราพบว่าตลาดไม่ได้ปฏิบัติตามกฎ..

บางที เราอาจจะไม่ได้เป็นคนนับผิด แต่กฎอาจผิดเองก็ได้ครับ (อย่าไปโทษว่าตลาดผิดที่ไม่ปฏิบัติตามกฎต่างๆในทฤษฎีนะ แอดไม่อยากให้ลูกเพจเรามีความคิดที่โทษตลาดแบบนี้ครับ)...

เพื่อนๆมีความคิดเห็นอย่างไร..
เคยเจอมั้ย คลื่น B และ C ไม่เป็นไปตามสัดส่วนตามทฤษฎี
หรือ มีข้อโต้แย้งกับเนื้อบทความของแอดตรงใด..

เรามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างสุภาพกันนะครับ ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ..
Source: https://www.facebook.com/share/p/19etfahd68/
Back to blog